ระบบดูดอัดอากาศ เป็นระบบของเครื่องยนต์ ที่ทำหน้าที่ นำอากาศบริสุทธิ์ ในประมาณ ที่เหมาะสม เข้าไปในห้องเผาไหม้ หรือ ห้องจุดระเบิดของเครื่องยนต์ ไปจนถึงขึ้นตอนการคลายไปเสียจากการเผาไหม้ออกจากเครื่องยนต์
เครื่องยนต์ ดีเซล ทำงาน ด้วย ส่วนผสม ของ น้ำมัน และอากาศ เรียกว่า Air-Fuel Ratio หรือ ค่า AF กำลังของเครื่องยนต์ และ ความประหยัด เกิดขึ้น ต่อเมื่อ การจุดระเบิดในห้องเผาไหม้ สมบูรณ์
แต่ในการใช้งานจริง เครื่องยนต์ดีเซล จะสะสมสิ่งสปรก ในรูปแบบของ คาร์บอน เขม่า และ เขม่าที่ปนน้ำมันเครื่อง ซึ่ง สิ่งสกปรกเหล่านี้ จะเข้าไป ปิดกันทางเดินอากาศ ทำให้ อากาศไม่สามารถเข้าสู่ห้องเผาไหม้ ได้ในปริมาณที่เครื่องยนต์ต้องการ ส่งผลทำให้ การจุดระเบิดไม่สมบูรณ์ เครื่องยนต์ ทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ กำลังของเครื่องยนต์ตก ส่งผลต่อการสึกหรอ และ การสิ้นเปลืองน้ำมันเชื้อเพลิง โดยตรง
เมื่อทางเดินอากาศตัน ผลเสียที่เกิดขึ้นต่อเครื่องยนต์ จะเกิดขึ้นดังนี้
1. การจุดระเบิดให้ห้องเผาไหม้ ไม่สมบูรณ์ เป็นเพราะมีอากาศ ไม่เพียงพอ ทำให้ เกิดละอองน้ำมัน ที่ไม่ถูกเผาไหม้ให้หมด และจะเป็นตัวการในการสร้างความเสียหายให้กับ เครื่องยนต์
2. ละอองน้ำมันที่เผาไหม้ ไม่หมด เพราะมีอากาศไม่พอ จะทำให้เกิดผลเสีย 3 ด้าน
ด้านแรก : จะไปปนกับน้ำมันเครื่อง ทำให้ คุณภาพของน้ำมันเครื่องและ ประสิทธิภาพในการ หล่อลื่น ลดต่ำลง ซึ่งส่งผลต่อการสึกหรอของเครื่องยนต์ โดยตรง
ด้านที่สอง : น้ำมันที่เผาไหม้ไม่สมบูรณ์ บางส่วนจะทำให้เกิด คาร์บอน เพราะ น้ำมัน ดีเซลส์ เป็นไฮโดรคาร์บอน (ประกอบด้วย H และ C) ซึ่ง ถ้าเผาไหม้หมดจด จะได้ CO₂ + H₂O + พลังงาน
แต่ถ้าอากาศไม่พอ → จะได้ CO + C (เขม่า/คาร์บอนแข็ง) แทน คาร์บอนแข็ง จะไปจับอยู่ที่ ปลายหัวฉีด หัวลูกสูบ ผนังกระบอกสูบ ซึ่ง ทำให้ องศาการฉีดน้ำมัน ผิดเพิ้ยน ลักษณะพื้นผิวของหัวลูกสูบเปลี่ยนไป และ ความร้อนสะสมในห้องเผาไหม้สูงขึ้นเนื่องจาก คาร์บอนเป็นตัวสะสมความร้อน และมักจะส่งทำให้เครื่องยนต์ ชิงจุดระเบิดก่อนกำหนด ซึ่ง จะเป็นตัวการซ้ำสองที่ทำให้ การเผาไหม้ ไม่หมดจด ยิ่งขึ้น
ด้านที่สาม : ความร้อนสะสมในเครื่องยนต์ทั้งระบบจะสูงขึ้น ส่งผลทำให้การสึกหรอของเครื่องยนต์มากขึ้น
3. เทอร์โบ จะเสื่อมสภาพเร็วขึ้น เป็นเพราะ ถ้าอากาศไม่พอ น้ำมันบางส่วนเผาไหม้ช้ากว่าปกติ (late burning) หรือเผาไหม้ต่อเนื่องในช่วงที่ลูกสูบกำลังเคลื่อนลง เมื่อการเผาไหม้ล่าช้า พลังงานที่ควรถูกใช้ไปดันลูกสูบ กลับไปเกิดใน จังหวะที่วาล์วไอเสียเริ่มเปิด ผลคือ ความร้อนจำนวนมากยังคงอยู่ในแก๊สไอเสีย แทนที่จะถูกเปลี่ยนเป็นพลังงานกล เครื่องยนต์ดีเซลที่ปกติอุณหภูมิไอเสียอาจอยู่ราว 400–600°C → ในกรณีเผาไหม้ไม่สมบูรณ์อาจพุ่งไป 700–900°C ได้
ไอเสียร้อนที่มีพลังงานความร้อนสูง จะไปปั่น ใบเทอร์ไบน์ของเทอร์โบ แม้จะได้แรงดันและรอบเทอร์โบสูงขึ้น แต่ก็ทำให้แกนเทอร์โบและ housing ร้อนเกินไป อาจทำให้เกิดปัญหา เช่น:
การเข้าไป ทำความสะอาด คราบเขม่า เขม่าเหนียว และ คาร์บอน แข็งที่เกิดขึ้น จึงเป็น การแก้ปัญหาที่ต้นทาง อีกทั้งยังเป็นหัวใจ ในการบำรุงรักษาเครื่องยนต์อย่างแท้จริง เพราะ วิธีการที่ ทำกันในปัจจุบัน คือ การถอดล้างท่อร่วมไอดี วาล์วลิ้นปีกผีเสื้อ EGR ซึ่งไม่เกิดประโยชน์ที่ครอบคลุมทั้งหมด เพราะ ชิ้นส่วนเหล่านั้นเป็นเพียงต้นทางของทางเดินอากาศ เพราะ ระบบอากาศ ยังมี ทางเดินอากาศในฝาสูบ วาล์วไอดี อีกทั้ง ส่วนต่างๆ ภายใต้ฝาสูบ ทั้ง วาล์ว ไอเสีย หัวลูกสูบ ปลายหัวฉีด และ ผนังห้องเผาไหม้ได้
แต่การทีจะรื้อเครื่องออกมาเป็นชิ้นๆ มาทำความสะอาด แล้วประกอบกลับเข้าไปใหม่ เป็นทางเลือกที่มีความเสี่ยงสูงต่อการเสียหายของเครื่องยนต์ สิ้นเปลืองทั้งค่าใช้จ่าย และ เวลา
Oxyhtech แตกต่าง เพราะ สามารถ เข้าทำความสะอาดได้ครอบคลุมทั้งหมดของ ทางดินอากาศรถยนต์ และ สามารถเข้าไปได้ถึงภายในห้องเผาไหม้ ซึ่งผลลัพธ์ที่ได้คือ การทำความสะอาดทั้งระบบ ส่งผลให้ เครื่องยนต์ สามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ การสึกหรอต่ำและประหยัดพลังงาน
We use cookies to analyze website traffic and optimize your website experience. By accepting our use of cookies, your data will be aggregated with all other user data.